การทำปศุสัตว์ของไทยยังต้องมีการพัฒนาเทคโนโลยีช่วยให้สัตว์เจริญเติบโตไม่มีโรคภัย ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค แนวทางการนำงานวิจัยมาใช้ให้เกิดประโยชน์เพื่อช่วยพัฒนาวงการปศุสัตว์ไทยจึงเกิดขึ้น โดยเป็นฝีมือของนักวิจัยไทยที่สามารถผลิต “เอนไซม์อาหารสัตว์” มาช่วยเสริมสร้างให้สัตว์เลี้ยงแข็งแรง และเป็นการลดการนำเข้าเอนไซม์ราคาแพงจากต่างประเทศ ช่วยให้วงการปศุสัตว์ไทยก้าวไกลไปอีกขั้น
เอนไซม์สำหรับเสริมเข้าไปในอาหารสัตว์เพื่อให้สัตว์เจริญเติบโตได้ดี คือ เมื่อสัตว์ได้รับเอนไซม์เข้าไปจะช่วยย่อยอาหารได้ดีขึ้น เนื่องจากสัตว์จะขาดเอนไซม์ในบางกลุ่มที่จำเป็นในการย่อยคาร์โบไฮเดรตที่ไม่ใช่แป้ง อย่างเปลือกพืช กากเมล็ดธัญพืชที่เหลือจากการแปรรูป ที่ใช้เป็นอาหารสัตว์ต่างๆ เช่น กาก รำ ฯลฯ อาหารจำพวกนี้สัตว์จะไม่สามารถย่อยได้ ดังนั้นถ้าเราให้อาหารเหล่านี้โดยไม่เสริมเอนไซม์ สัตว์จะดูดซึมอาหารไม่ได้อย่างเต็มที่ ส่งผลให้สัตว์มีสุขภาพไม่แข็งแรงและผลผลิตที่ได้ก็จะต่ำ”
จึงได้พัฒนากระบวนการผลิตเอนไซม์ในสภาวะที่เหมาะสมและเลือกใช้จุลินทรีย์ที่ ดีเพื่อนำมาผสมอาหารสัตว์ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ชนิดต่างๆ เป็นการเสริมสร้างให้เกิดการใช้เทคโนโลยีการหมักในระดับอุตสาหกรรมเพื่อ ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์และทดแทนการนำเข้าเอนไซม์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมสัตว์จาก ต่างประเทศ ผลิตภัณฑ์เอนไซม์แต่ละชนิดมีความจำเพาะและความคงทนแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาและชนิดของจุลินทรีย์ที่ใช้ในการผลิต อีกทั้งยังขึ้นอยู่กับชนิดของวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ใช้เลี้ยงสัตว์ ทำให้ได้ผลและความคุ้มค่าในการนำมาใช้แตกต่างกัน อาทิ ผลิตภัณฑ์เอนไซม์ที่พัฒนาในต่างประเทศ โดยใช้วัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ไม่ใช้ในประเทศไทย ก็จะมีความจำเพาะน้อยกว่าเมื่อนำเอนไซม์เหล่านี้เข้ามาใช้ในประเทศ อีกทั้งยังทำให้เราจะต้องสูญเสียดุลการค้าเพื่อนำเข้าในราคาแพง
นอกจากนี้เอนไซม์ที่ผลิตจากต่างประเทศส่วนใหญ่จะผลิตจากจุลินทรีย์ที่คัดแยกได้จากสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ซึ่งจุลินทรีย์เหล่านี้อาจไม่ทนต่อสภาพแวดล้อมในประเทศไทยที่อากาศร้อน ส่งผลต่อเอนไซม์เสื่อมสภาพ มีประสิทธิภาพลดลง เมื่อนำมาใช้เลี้ยงสัตว์ เป็นต้น”